พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 - 27 กุมภาพันธ์ 2555
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 22-26 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัว
ในตอนกลางวัน แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่ง หลังจากนั้นจะมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา
สำหรับในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ. คลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ข้อควรระวัง ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนในภาคเหนือระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกควันปกคลุม
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 21-23 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีหมอกในตอนเช้าและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเ-ยส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.พ.อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 22-26 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
หลังจากนั้น มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 21-22 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 21-22 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ
10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ.
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 21-22 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 22-27 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ
10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74