พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2555 - 17 มีนาคม 2555
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ส่วนภาคใต้มีคลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ที่มีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ในระยะนี้ไว้ด้วย
ภาคเหนือ ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส
โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ถึงกระจายร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ โดยมีลูกเห็บตกได้บางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. มีอุณหภูมิสูงขึ้น กับฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
กับลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 มี.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74