ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 16 มีนาคม 2555 - 22 มีนาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 16-22 มี.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ระยะนี้อากาศแห้งน้ำระเหยมาก เกษตรกร ควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ถ้าขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมี ลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนในช่วงวันที่ 18-22 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 16-22 มี.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ และควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่ง ขณะมีฝนฟ้าคะนอง
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่มักเกิด ในหน้าร้อนให้แก่สัตว์เลี้ยงด้วย และหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มแล้วรักษาเพื่อไม่ให้ เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรจากสภาะดังกล่าว
- บริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง และใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค.จะมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เช่นหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกินผลหรือขั้วผล ทำให้ผลร่วงหล่นเสียหาย รวมทั้งเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นไปทำลายให้ถูกวิธี เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคและศัตรูพืชรวมทั้งให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- สำหรับบริเวณตอนบนของภาคที่มีฝนน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
-ส่วนบริเวณตอนล่างและทางตะวันตกของภาคที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ เอาไว้เพื่อใช้ทางด้านการเกษตร และควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74