ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 19 มีนาคม 2555 - 25 มีนาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที 19-23 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 15-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที 24-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ระยะนี้สภาพอากาศจมตัว ทำให้ควันไฟลอยตัวขึ้นข้างบนได้ยาก แต่จะแผ่ปกคลุมเป็นพื้นที่กว้าง ก่อให้เกิดภาวะมลพิษจากหมอกควันเพิ่มขึ้น เกษตรกรจึงควรหลีกเลี่ยงการเผา วัสดุกลางแจ้ง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ - เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้ง ทำให้น้ำระเหยได้มากเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ไม้ดอก และพืชผักต่างๆควรดูแลให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม รวมทั้งคลุมโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นในดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตเสียหาย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที 19-22 มี.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงตลอดช่วง เกษตรกรควรดูแลอาคารบ้านเรือนและโรงเรือนเก็บผลผลิตทางการเกษตรให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหาย - ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวและไม่ควรตากไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ - นอกจากนี้เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่ง ขณะที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที 19-23 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ในช่วงวันที่ 24 -25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูง ขณะมีฝนฟ้าคะนองและลมแรง - เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด โดยให้น้ำแก่พืชครั้งละน้อยๆแต่บ่อยๆครั้ง และควรคลุมโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นในดิน
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที 19-22 มี.ค. ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - ระยะนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงตลอดช่วง เกษตรกรควรตรวจสอบอุปกรณ์ที่ผูกยึด และค้ำยันลำต้นและกิ่งของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันต้นโค่นล้ม และกิ่งฉีกหัก - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อควรดูแลปริมาณน้ำให้สมดุลกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง ถ้าหากสัตว์น้ำหนาแน่นเกินไปจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที 19-23 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - สำหรับทางตอนบนของภาคจะมีฝนน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้น เช่น ผักและพืชไร่ชนิดต่างๆ จะได้รับผลกระทบจากสภาพความแห้งแล้งก่อนพืชชนิดอื่นๆ -ส่วนทางตอนล่างของภาคยังคงมีฝนตก ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินใบอ่อนและยอด ทำให้ต้นทรุดโทรม - สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ เอาไว้เพื่อใช้ทางด้านการเกษตร และควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที 19-24 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ เอาไว้เพื่อใช้ทางด้านการเกษตร และควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74