ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 26 มีนาคม 2555 - 01 เมษายน 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18--23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. -1 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น และลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ผลโดยเฉพาะลิ้นจี่และลำไยควรผูกโยงหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นให้แข็งแรง
- สำหรับเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ควรใช้น้ำอย่างประหยัด โดยให้น้ำแก่พืชครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง หรือให้น้ำในเวลาเย็นและค่ำ เพื่อลดการระเหยของน้ำ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ตลอดจนป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะมีฝนฟ้าคะนองและลมแรง
- ระยะนี้อากาศร้อนทำให้เชื้อโรคบางชนิดเจริญเติบโต ได้เร็ว เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โดยระมัดระวังเกี่ยวกับอาหารการกิน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 26-30 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-1 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะจะทำให้เปียกชื้นเสียหาย
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน โดย ฉีดน้ำบริเวณหลังคา และนำวัสดุอุ้มน้ำชุบน้ำแล้วนำไปไว้ในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งดูแลน้ำดื่มที่สะอาดให้กับสัตว์อย่างเพียงพอ
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 26-30 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-1 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ระยะนี้จะมีลมกระโชกแรง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย. ชาวสวนผลไม้ควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งแลtลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อมีลมแรง
- ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ รวมทั้งควรวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 70-85%
- ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 26-30 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรง บางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-85%
- ระยะนี้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโตและไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค.- 1 เม.ย. จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรทางฝั่งตะวันออกควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้สำหรับการเกษตรในระยะต่อไปด้วย
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74