พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 02 เมษายน 2555 - 08 เมษายน 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday April 3, 2012 07:24 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 02 เมษายน 2555 - 08 เมษายน 2555

ภาคเหนือ

  • ในช่วงวันที 2-3 เม.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที 4-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ชาวสวนผลไม้ควรตรวจสอบสภาพของวัสดุอุปกรณ์ที่ผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของพืชที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมสม่ำเสมอและคลุมโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นดิน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง หรือปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้ง ขณะมีฝนฟ้าคะนอง นอกจากนี้ควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรด้วย
  • ฝนที่ตกในช่วงนี้จะส่งผลดีต่อพืชไร่และผักชนิดต่างๆที่กำลังเจริญเติบโต สำหรับเกษตรกรที่มีแหล่งกักเก็บน้ำควรเก็บกักน้ำฝนที่ตกไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย

ภาคกลาง

  • ในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ป้ายโฆษณาหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรตัดแต่งกิ่งไม้ที่ผุหรือต้นไม้ที่อยู่ใกล้บริเวณบ้าน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนเมื่อมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
  • ระยะนี้จะมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรเก็บกักน้ำเพื่อสำรองไว้ใช้อุปโภค บริโภค และด้านการเกษตรในระยะต่อไปด้วย

ภาคตะวันออก

-ในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

  • ในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ชาวสวนผลไม้ควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ระยะนี้จะมีฝนตกซึ่งจะเป็นผลดีต่อไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล และเกษตรกรควรเก็บกักน้ำฝน เพื่อสำรองไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 70-85%
  • ระยะนี้จะมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อาจทำให้กิ่งหรือลำต้นของไม้ผลและไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ หักหรือล้ม เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นด้วย
  • ในช่วงนี้ทะเลจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ความชื้นสัมพัทธ์ 70-85%
  • ระยะนี้จะมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อาจทำให้กิ่งหรือลำต้นของไม้ผลและไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ หักหรือล้ม เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นด้วย
  • ในช่วงนี้ทะเลจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ