ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 20 เมษายน 2555 - 26 เมษายน 2555
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-26 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก รวมทั้งควรจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้
-สำหรับไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ
- ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. เกษตรกรควรระวังป้องกันอันตรายจากพายุฤดูร้อนซึ่งจะมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-26 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก รวมทั้งควรจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้
- ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. เกษตรกรควรระวังป้องกันอันตรายจากพายุฤดูร้อนซึ่งจะมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-26 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- สำหรับบริเวณที่มีอากาศร้อน เกษตรกรอาจใช้น้ำฉีดบนหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน หรือเพิ่มความชื้นในโรงเรือนโดยนำวัสดุอุ้มน้ำชุบน้ำแล้วนำไปไว้ในโรงเรือน รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
- ในช่วงวันที่ 21-22 เม.ย. เกษตรกรควรระวังป้องกันอันตรายจากพายุฤดูร้อนซึ่งจะมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้
ภาคตะวันออก
ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 22-23 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บบางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-26 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ช่วงนี้จะมีอากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บเกิดขึ้นได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว ควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตให้แข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก และต้นโค่นล้ม
- ในระยะนี้จะมีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ในช่วงแล้งด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
- ฝนที่ตกช่วงนี้จะเป็นผลดีกับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก และพืชที่กำลังเจริญเติบโต แต่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนที่จะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
- ในตอนล่างของภาคสภาพอากาศที่มีความชื้นเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้มีโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราระบาดในสวนยางพารา เกษตรกรควรระวังและป้องกัน นอกจากนี้ควรจัดทำทางระบายน้ำเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมขังขณะมีฝนตกหนักติดต่อกัน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74