ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 23 เมษายน 2555 - 29 เมษายน 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 23-25 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ระยะนี้แม้ว่าจะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต และไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต โดยเฉพาะลิ้นจี่ หากไม่ได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอแล้ว เมื่อมีฝนตกลงมาจะทำให้ผลแตกได้
- สำหรับชาวนาควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ในข้าวที่กำลังเจริญเติบโต ซึ่งจะ ดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและแคระแกร็น
- สภาพอากาศร้อนและมีแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
- ในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 23-25 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- สภาพอากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียด ซึ่งจะทำให้เจ็บป่วยได้
- ระยะนี้จะมีฝนตก เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้ง สำหรับในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายพายุฤดูร้อนซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 23-25 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- สภาพอากาศร้อนและมีแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด และดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ หากหนาแน่นเกินไปจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย
- ในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 23-25 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- สภาพอากาศที่ร้อนทำให้น้ำระเหยมาก ชาวสวนผลไม้ควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง หรือเศษพืชอื่นๆ เพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ผลผลิตเสียหาย นอกจากนี้ควรผูกยึด และค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ระยะที่ผ่านมาทางตอนบนของฝั่งตะวันออกมีฝนตกน้อย ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวในช่วงนี้ยังมีปริมาณฝนไม่มาก เกษตรกรจึงควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชอย่างเพียงพอ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
- ทางฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกชุก ชาวสวนยางพาราควรดูแลบริเวณสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา นอกจากนี้ควรทำทางระบายน้ำ และขุดลอกคูคลองเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร ป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74