ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 25 เมษายน 2555 - 01 พฤษภาคม 2555
ภาคเหนือ
-ในช่วงวันที่ 25 เม.ย. และ 29 เม.ย. — 1 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงต่างๆด้วย
- เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียด และเจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
-ในช่วงวันที่ 25 เม.ย. และ 30 เม.ย. — 1 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน ผลผลิตทางการเกษตร และโรงเรือนเลี้ยงสัตว์จากสภาพดังกล่าวด้วย
- สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และผักควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและแคระแกร็น
ภาคกลาง
-ในช่วงวันที่ 25 เม.ย. และ 29 เม.ย. — 1 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ป้ายโฆษณาสูงๆหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงในช่วงดังกล่าวด้วย
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ หากหนาแน่นเกินไปจะทำให้สัตว์น้ำเครียด อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย
ภาคตะวันออก
-ในช่วงวันที่ 25 และ 30 เม.ย. — 1 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ในช่วงวันที่ 26-29 เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต เช่น เงาะ ทุเรียน และมังคุด โดยควรเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุที่ใช้ผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาพดังกล่าว
- สภาพอากาศที่ร้อนทำให้น้ำระเหยมาก ชาวสวนผลไม้ควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง หรือเศษพืชอื่นๆ เพื่อสงวนความชื้นในดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ระยะที่ผ่านมาทางตอนบนของฝั่งตะวันออกมีฝนตกน้อย ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวในช่วงนี้ยังมีปริมาณฝนไม่มาก เกษตรกรจึงควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชอย่างเพียงพอ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 25-28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 29 เม.ย. — 1 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
- ทางฝั่งตะวันตกจะมีฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 29 เม.ย. - 1 พ.ค. ชาวสวนยางพาราควรดูแลบริเวณสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74