พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 30 เมษายน 2555 - 06 พฤษภาคม 2555

ข่าวทั่วไป Wednesday May 2, 2012 11:47 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 30 เมษายน 2555 - 06 พฤษภาคม 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70% - ช่วงนี้อากาศร้อนจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียด และเจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้เกษตรกรที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรสวมเสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด และไม่ควรอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน เพราะร่างกายจะเสียเหงื่อมากอาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ - ฝนที่ตกในช่วงนี้จะเป็นฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง เกิดขึ้นด้วย เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และผลผลิตทางการเกษตร ส่วนฝนที่ตกยังมีปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-3 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ช่วงนี้อากาศร้อนจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียด และเจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้เกษตรกรที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรสวมเสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด และไม่ควรอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน เพราะร่างกายจะเสียเหงื่อมากอาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ - ในช่วงนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน ผลผลิตทางการเกษตร และโรงเรือนเลี้ยงสัตว์จากสภาพดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงต่างๆด้วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ช่วงนี้อากาศร้อนจัดเกษตรกรที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรสวมเสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด และไม่ควรอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน เพราะร่างกายจะเสียเหงื่อมากอาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ - ในช่วงนี้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และผลผลิตทางการเกษตร - ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ หากหนาแน่นเกินไปจะทำให้สัตว์น้ำเครียด อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 พ.ค. ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - ในช่วงนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต เช่น เงาะ ทุเรียน และมังคุด โดยควรเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุที่ใช้ผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล หรือเก็บผลผลิตที่แก่ดีแล้วเพื่อป้องกันความเสียหายหรือคุณภาพลดลง - สภาพอากาศที่ร้อนทำให้น้ำระเหยมาก ชาวสวนผลไม้ควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง หรือเศษพืชอื่นๆ เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85% - ฝั่งตะวันออก ฝนที่ตกช่วงนี้ทำให้สภาพอากาศชื้นอาจทำให้มีหนอนชนิดต่าง ๆ เข้าทำลายกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง - สำหรับชาวสวนยางไม่ควรกรีดยางในวันที่มีฝนตก เพราะจะทำให้น้ำยางที่ได้เสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 3-6 พ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90% - ฝั่งตะวันตกช่วงนี้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูก โดยจัดทำทางระบายน้ำ รวมทั้งขุดลอกคูคลองอย่าให้ตื้นเขิน - สำหรับชาวสวนยางไม่ควรกรีดยางในวันที่มีฝนตก เพราะจะทำให้น้ำยางที่ได้เสียหาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ