ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 02 พฤษภาคม 2555 - 08 พฤษภาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- สภาพอากาศร้อนและแสงแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด และดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ หากหนาแน่นเกินไปจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย
- ระยะนี้จะมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโต
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. จะมีฝนตกไม่มาก สภาพอากาศร้อนและแห้ง อาจทำให้เกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้ง่าย เกษตรกรควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังการใช้ทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกด้วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ ดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียด ซึ่งจะทำให้เจ็บป่วยได้
- ในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้น ทำให้คลายความร้อนอบอ้าวลง และเป็นผลดีกับพืชที่ขาดน้ำในระยะที่ผ่านมา
- ในช่วงนี้จะมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร
- ในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ในช่วงนี้จะมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต โดยควรเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุที่ใช้ผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล
- ในช่วงวันที่ 5-8 จะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโต และไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตซึ่งต้องการน้ำมาก สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไป
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ฝั่งตะวันออกทางตอนบนของภาคจะยังคงมีฝนตกน้อย ไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืช รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้น ในดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%
- ฝั่งตะวันตกระยะนี้จะมีฝนตกชุก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74