พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 14 พฤษภาคม 2555 - 20 พฤษภาคม 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday May 15, 2012 07:29 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 14 พฤษภาคม 2555 - 20 พฤษภาคม 2555

ภาคเหนือ

-ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 17-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะไม้ผล เช่น ลิ้นจี่ อาจจะเสียหายได้
  • ในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. จะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

-ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรด้วย
  • ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากด้วย - ระยะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชไร่ควรคลุกเมล็ดพันธุ์หรือชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราและควรเตรียมแปลงเพาะปลูก เมื่อมีความชื้นดินเพียงพอสามารถลงมือเพาะปลูกได้

ภาคกลาง

-ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ระยะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชไร่ ควรเตรียมแปลงเพาะปลูกเมื่อมีความชื้นดินเพียงพอสามารถลงมือเพาะปลูกได้
  • เนื่องจากในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และควรจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อเอาไว้ให้พร้อม เพื่อลดความเสียหายเมื่อมีฝนตกหนัก

ภาคตะวันออก

-ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค.จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรระวังและป้องกันผลผลิตเสียหายจากฝนที่ตก นอกจากนี้ควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ชาวสวนยางพาราควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • เนื่องจากระยะนี้ทางภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกชุกเกษตรกรควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่าในยางพารา เป็นต้น ซึ่งมักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • เนื่องจากระยะนี้ทางภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกชุกเกษตรกรควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่าในยางพารา เป็นต้น ซึ่งมักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง

-ในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรทำทางระบายออกจากพื้นที่การเกษตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ซึ่งจะทำให้รากขาดอากาศและตายได้

  • ชาวเรือและชาวประมงบริเวณทะอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ