พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง ระหว่าง 18 พฤษภาคม 2555 - 24 พฤษภาคม 2555

ข่าวทั่วไป Monday May 21, 2012 07:18 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 18 พฤษภาคม 2555 - 24 พฤษภาคม 2555

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะให้ผลผลิต ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่น และเน่าเสียไปกำจัดให้ถูกวิธี เพื่อตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในระยะนี้ควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชในระยะนี้ ควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง รวมทั้งระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยง ให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนัก
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรยกพื้นคอกสัตว์ให้สูงขึ้น รวมทั้งดูแลโรงเรือนอย่าให้อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งระวังและป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น ชาวสวนผลไม้ควรหลีกเลี่ยงการกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวน หรือกองสุมไว้บริเวณโคนต้นพืช เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
  • สำหรับสวนผลไม้ซึ่งอยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรรักษาสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ฝั่งตะวันออกช่วงนี้จะมีฝนกระจาย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นทรุดโทรม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 21-24 พ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ฝั่งตะวันตก ระยะนี้จะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • อนึ่งบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ