ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 13 มิถุนายน 2555 - 19 มิถุนายน 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 15-19 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %
- ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. เกษตรกรที่อยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
- สภาพอากาศชุ่มชื้น พื้นดินเปียกแฉะ ชาวสวนควรระวังการระบาดของโรครากเน่าและโคนเน่า
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. เกษตรกรที่อยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลโดยเฉพาะทางตอนบนของภาคควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลไม่ให้สัตว์อยู่ในที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะโค กระบือ และสุกร อาจป่วยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 13-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ช่วงนี้ฝนตกชุก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต หากพบควรรีบกำจัด
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 13-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 16-19 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
-ชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลและทำทางระบายน้ำให้ใช้การได้ดีเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชเมื่อมีฝนตกหนักและดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อราที่มักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
-ช่วงวันที่ 16-19 มิ.ย. คลื่นลมมีกำลังแรงผู้เลี้ยงสัตว์น้ำประมงชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมพัดเข้าฝั่ง บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 13-16 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 13-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ช่วงวันที่ 16-19 มิ.ย. คลื่นลมมีกำลังแรงผู้เลี้ยงสัตว์น้ำประมงชายฝั่งอันดามันควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมพัดเข้าฝั่ง และคลื่นบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74