ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 29 มิถุนายน 2555 - 05 กรกฎาคม 2555
ภาคเหนือ -ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.-2 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 3— 5 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ บริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในระยะที่มีฝนตกต่อเนื่องไม้ผลที่อยู่ในระยะ ให้ผลผลิต เกษตรกรควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่น เน่าเสีย ไปกำจัด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช - ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอก ควรระวังและป้องกันโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบควบคุมโรค เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ -ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 2 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตะวันออกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3- 5 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงนี้จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร - เนื่องจากสภาพอากาศชื้น ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นข้าวเสียหายได้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
- ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 2 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3- 5 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - เนื่องจากสภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปีซึ่งกำลังเจริญเติบโตควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะกัดกินใบ ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต - ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำหลังจากที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนและป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 2 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3- 5 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในระยะนี้มีฝนตกต่อเนื่องไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิต ไปแล้ว เกษตรกรที่ตัดแต่งกิ่งควรทาบริเวณแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา - สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกัน น้ำท่วมขัง และโรครากเน่าโคนเน่า - ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 2 ก.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตรชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 3 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4- 5 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ฝั่งตะวันออกในช่วงนี้สภาพอากาศชื้น สวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว ชาวสวนควรตัดแต่งกิ่ง และทารอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งควรดูแลสวนและบริเวณโคนต้นพืชให้โล่งเตียนไม่อับชื้น เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 1 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2- 5 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ฝั่งตะวันตกช่วงนี้ทางฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนัก ชาวสวนยางพาราควรกำจัดวัชพืชภายในสวนให้โล่งเตียน อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความชื้นป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา - ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย.- 1 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2-3 เมตรชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74