ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 18 กรกฎาคม 2555 - 24 กรกฎาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 18-22 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 23-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ระยะนี้มีฝนตกชุก ชาวสวนลำไยที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วควรตัดแต่งกิ่ง และทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรค และศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกไม่อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหมั่นสังเกตุหากพบตัวที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่ม และรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในบริเวณแปลงเพาะปลูก
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 18-22 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับในช่วงวันที่ 23-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมหลังคาโรงเรือน อย่าให้รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุสำหรับกั้นน้ำ และอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 18-21 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับในช่วงวันที่ 22-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ระยะนี้ฝนตกชุก ชาวสวนผลไม้ไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้บริเวณโคนของต้นพืช เพราะจะทำให้บริเวณโคนต้นอับชื้น เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ สำหรับในช่วงวันที่ 21-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนในระยะนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุก
- ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นและเน่าเสียไปกำจัด เพื่อตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 18-20 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับในช่วงวันที่ 21-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ระยะนี้บางช่วงจะมีฝนตกหนักโดยเฉพาะทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนานทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
- สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนในระยะนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุก
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-22 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร สำหรับบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74