ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 23 กรกฎาคม 2555 - 29 กรกฎาคม 2555
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 28-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. จะมีฝนตกชุกโดยเฉพาะบริเวณตอนบนและด้านตะวันออกของภาค เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร
- ในช่วงที่มีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกไม้ดอกและกาแฟควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราไว้ด้วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
-ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 28-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค.จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค เกษตรกรในบริเวณดังกล่าวควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะดังกล่าวด้วย
- สำหรับพืชไร่และผักชนิดต่างๆที่กำลังเจริญเติบโต โดยเฉพาะบริเวณตอนล่างของภาค ซึ่งมีฝนตกน้อยในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เช่น เพลี้ยชนิดต่างๆ
ภาคกลาง
-ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 25-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในระยะนี้ทางด้านตะวันตกของภาคจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ทำให้อากาศมีความชื้นสูงขึ้นเกษตรกรที่ปลูกไม้ดอกและองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้
-สำหรับบริเวณตอนกลางของภาคแม้จะมีฝนแต่ปริมาณไม่มาก ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม
ภาคตะวันออก
-ในวันที่ 23 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 24-29 ก.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก เฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 24-29 ก.ค.จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
- สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค.เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 23-24 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 25-29 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ระยะนี้ทางฝั่งตะวันออกแม้จะมีฝนแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. คลื่นลมบริเวณทะเล อันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 24-26 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 27-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 24-26 ก.ค. ทางฝั่งตะวันตกของภาคจะมีฝนตกชุก ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โดยดูแลสวนยางให้โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. คลื่นลมบริเวณทะเล อันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74