พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 27 กรกฎาคม 2555 - 02 สิงหาคม 2555

ข่าวทั่วไป Monday July 30, 2012 07:08 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 27 กรกฎาคม 2555 - 02 สิงหาคม 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค. และ 1-2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ระยะนี้มีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ พืชผักและไม้ดอกควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราไว้ด้วย - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรเฝ้าระวังอย่าให้สภาพน้ำมีการเปลี่ยนแปลงมาก เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนและป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 27- 28 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงที่มีฝนตกชุก ประกอบกับมีแสงแดดน้อย ข้าวนาปีที่อยู่ในระยะกล้าถึงปักดำ ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.และ 31 ก.ค.- 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับในช่วงวันที่ 29-30 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ช่วงนี้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับมีแสงแดดน้อย ทำให้อากาศมีความชื้นสูงขึ้น เกษตรกรที่ปลูกไม้ดอกและองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้ - เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมหลังคาโรงเรือน อย่าให้รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร เว้นแต่ในช่วงวันที่ 29-30 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ช่วงนี้จะมีฝนตกชุก ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โดยดูแลสวนยางให้โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก - สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค. เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 27-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ค.- 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ระยะนี้ทางฝั่งตะวันออกแม้จะมีฝนแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 27-29 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ค. - 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. - 2 ส.ค. ฝั่งตะวันตกของภาคจะมีฝนตกชุก ผู้ที่ปลูกพืชสวนในระยะนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุก - อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. — 2 ส.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ