พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 01 สิงหาคม 2555 - 07 สิงหาคม 2555

ข่าวทั่วไป Friday August 3, 2012 07:10 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 01 สิงหาคม 2555 - 07 สิงหาคม 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 1-3 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ระยะนี้มีฝนตกชุก ชาวสวนลำไยที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วควรตัดแต่งกิ่ง และทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรค และศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย นอกจากนี้เกษตรกรควรสวมรองเท้าบูตขณะทำงานในที่ชื้นแฉะเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 1-3 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในระยะที่ผ่านมามีฝนตกน้อยบริเวณตอนล่างของภาค ประกอบกับปริมาณฝนที่จะตกในระยะต่อไปมีน้อย เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ พืชผักกและไม้ดอกที่กำลังเจริญเติบโตควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 1-3 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในระยะนี้ทางด้านตะวันตกของภาคจะมีฝนตกชุก ทำให้อากาศมีความชื้นสูงขึ้นเกษตรกรที่ปลูก พืชไร่ ไม้ดอกและพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้ - สำหรับบริเวณตอนกลางของภาคแม้จะมีฝนแต่ปริมาณไม่มาก ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 1-3 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ช่วงนี้จะมีฝนตกชุก เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย - สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 1 — 3 ส.ค. เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 1 -3 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้ - ในช่วงวันที่1 — 3 ส.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 1 — 3 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้ - ในช่วงวันที่1 — 3 ส.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ