ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 03 สิงหาคม 2555 - 09 สิงหาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 3 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-9 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ระยะนี้มีฝนตกชุก ชาวสวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วควรตัดแต่งกิ่ง ทำสวนให้โล่งเตียนอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย นอกจากนี้เกษตรกรควรสวมรองเท้าบูตขณะทำงานในที่ชื้นแฉะเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในวันที่ 3 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 4-9 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในระยะที่ผ่านมามีฝนตกน้อยบริเวณตอนล่างของภาค เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ พืชผักและไม้ดอกที่กำลังเจริญเติบโตควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม
-ส่วนตอนบนของภาคมีฝนชุกผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในระยะนี้ทางด้านตะวันตกของภาคจะมีฝนตกชุก ทำให้อากาศมีความชื้นสูงขึ้นเกษตรกรที่ปลูก พืชไร่ ไม้ดอกและพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ในวันที่ 3 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-9 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ชาวสวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วควรตัดแต่งกิ่ง ทำสวนให้โล่งเตียนอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 3 ส.ค.ชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ในวันที่ 3 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-9 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ฝั่งตะวันตก ในวันที่ 3 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-9 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ระยะนี้มีฝนน้อยปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
- ในช่วงวันที่ 3 ส.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74