พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 13 สิงหาคม 2555 - 19 สิงหาคม 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday August 14, 2012 07:10 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 13 สิงหาคม 2555 - 19 สิงหาคม 2555

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ระยะนี้จะมีฝนตกชุกหนาแน่น เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้
  • สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง เกษตรกรควรป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่และพืชผัก สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ ชาวสวนควรระวังการระบาดของโรคผลเน่า

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%

  • ทางตอนบนของภาคจะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ควรดูแลสัตว์เลี้ยงมิให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ และดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
  • ทางตอนล่างของภาคจะมีฝนไม่มาก เกษตรกรควรดูแลพืชไร่และข้าวนาปีที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาค เกือบตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-90%

  • ทางด้านตะวันตกของภาคจะมีฝนตกหนัก พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรยกร่องแปลงปลูกให้สูงขึ้น และทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • ทางด้านตะวันออกของภาคจะมีฝนไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกือบตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ระยะนี้จะมีฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมขังได้ในที่ลุ่มบางพื้นที่ เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกไว้ด้วย
  • สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง อาจเกิดโรคพืชจากเชื้อราระบาดทำลายพืชไร่และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด สำหรับชาวสวนผลไม้ควรดูแลบริเวณสวนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 13-14 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 ส.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 13-14 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
  • ระยะที่ผ่านมาในหลายพื้นที่มีฝนตกน้อยและบางพื้นที่ไม่มีฝนตก ประกอบกับในช่วงนี้จะมีฝนตกน้อย การกระจายของฝนไม่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ปริมาณฝนอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืช และกำจัดวัชพืช เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำ
  • ชาวสวนที่เก็บเกี่ยวผลผลิตของไม้ผลเสร็จแล้วควรทำการตัดแต่งกิ่งให้โปร่งและเก็บผลที่ร่วงหล่นบริเวณโคนต้นไปทำลาย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ