ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 20 สิงหาคม 2555 - 26 สิงหาคม 2555
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 20-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรด้วย
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เช่น หนอนเจาะขั้วผล ซึ่งจะทำให้ผลเน่าและร่วงหล่น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
-ในช่วงวันที่ 20-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค.จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะดังกล่าวด้วย
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังความเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกหนักจะทำให้อุณหภูมิและสภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
-ในช่วงวันที่ 20-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค.จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะดังกล่าวด้วย
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรเตรียมป้องกันอย่าให้มีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากขาดอากาศและตายได้
ภาคตะวันออก
-ในช่วงวันที่ 20-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค.จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- สำหรับทางฝั่งตะวันออกของภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ระยะนี้มีฝนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกของภาค ซึ่งจะเป็นผลดีแก่ผลผลิตของพืชในระยะไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74