ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 22 สิงหาคม 2555 - 28 สิงหาคม 2555
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 22-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 22-25 ส.ค. จะมีฝนตกชุก โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรด้วย
- สำหรับบริเวณภาคเหนือตอนบนระยะที่ผ่านมาได้รับน้ำมาก สภาพอากาศชื้น อาจมีโรคพืชจากเชื้อราเข้าทำลายพืชไร่ที่กำลังเจริญเติบโต โดยเฉพาะถั่วเหลือง อาจเกิดโรคราสนิม ทำให้ฝักลีบ เมล็ดเล็ก ผลผลิตต่ำ เกษตรกรควรระวัง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค.จะมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะดังกล่าวด้วย
- สำหรับชาวนาควรป้องกันกำจัดหอยเชอรี่ที่อาจระบาดทำลายต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตได้
ภาคกลาง
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค.จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะดังกล่าวด้วย
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ สามารถระบายน้ำได้ดีขณะที่มีฝนตกหนัก เพื่อมิให้มีน้ำท่วมขังตามโคนต้นพืช เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและตายได้
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค.จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วย
- สำหรับบริเวณที่มีฝนตก หากมีน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก อย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าและโคนเน่า
- ในช่วงวันที่ 27-28 ส.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ช่วงนี้ภาคใต้จะมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป ซึ่งจะเป็นผลดีแก่พืชที่ขาดแคลนน้ำเมื่อระยะที่ผ่านมา และช่วยบรรเทาการเกิดไฟป่า
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรหมั่นดูแลสภาพน้ำ อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย
- ส่วนบริเวณที่ยังมีฝนตกน้อย โดยเฉพาะภาคใต้ตอนบน ช่วงที่ผ่านมาความชื้นในดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืชมีน้อย เกษตรกรจึงควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ
- อนึ่งในช่วงวันที่ 27-28 ส.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 27-28 ส.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74