ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 24 สิงหาคม 2555 - 30 สิงหาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงที่มีฝนเพิ่มขึ้น สภาพอากาศชื้น เกษตรกรควรป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ พืชผัก และไม้ดอก สำหรับไม้ผล ที่อยู่ในระยะผลแก่ ชาวสวนควรระวังการระบาดของโรคผลเน่า - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดสภาวะน้ำท่วม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงที่มีฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงฝนแล้ง - สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังความเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกหนักจะทำให้อุณหภูมิและสภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงที่ฝนตกหนัก เกษตรกรที่อยู่ในที่ลุ่ม ควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง - ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมโรงเรือนให้แข็งแรง ตรวจซ่อมหลังคาอย่าให้รั่วซึม และทำแผงกำบังฝน เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น ซึ่งจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงที่มีฝนตกเพิ่มขึ้น เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย - อนึ่งในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% สำหรับทางฝั่งตะวันออกของภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 24-26 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ระยะนี้มีฝนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกของภาค ซึ่งจะเป็นผลดีแก่ผลผลิตของพืชในระยะต่อไป - อนึ่งในช่วงวันที่ 26-28 ส.ค. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74