ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 05 กันยายน 2555 - 11 กันยายน 2555
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 80-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย. เกษตรกรที่อาศัยอยู่ที่ราบลุ่มและพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโดยเฉพาะบริเวณตอนล่างของภาคควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางเกษตรจากสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก
- เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนกาแฟควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งเพื่อลดความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสนิม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 80-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย. เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางเกษตรจากสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก
- สภาพอากาศมีความชื้นสูง สำหรับพืชไร่ที่กำลังเจริญเติบโต ชาวไร่ควรป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างในข้าวโพด
ภาคกลาง
- ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 80-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ช่วงนี้จะมีฝนตกชุกหนาแน่น ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองสูงขึ้น เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกหนักซึ่งจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 80-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 9-11 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ช่วงนี้จะมีฝนตกชุกหนาแน่น เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางเกษตร
- ในบริเวณที่ลุ่ม เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ควรยกร่องแปลงปลูกให้สูง และเตรียมระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งคลุกเมล็ดพันธุ์หรือท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ในช่วงวันที่ 5-9 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-9 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 10-11 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ระยะที่ผ่านมาบริเวณที่มีฝนตกน้อย โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชและนราธิวาส เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำติดต่อกันจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
- พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำ เพื่อเตรียมป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ในช่วงวันที่ 5-9 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-9 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 10-11 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายไว้ด้วย
- สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดแปลงปลูก เพื่อมิให้แมลงศัตรูพืชไปอาศัยหลบซ่อน
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ย. ชาวเรือและชาวประมงบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74