พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 17 กันยายน 2555 - 23 กันยายน 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday September 18, 2012 07:11 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 17 กันยายน 2555 - 23 กันยายน 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 17-22 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียสเว้นแต่ในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%

  • ระยะนี้สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงโดยปริมาณฝนจะน้อยลงและอุณหภูมิจะเย็นลงในบางช่วง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาโดยเฉพาะทางตอนบนของภาคหากน้ำลดลงแล้วเกษตรกรควรฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำ
  • ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งยังคงมีน้ำท่วม เกษตรกร ควรระวังและป้องกันโรคที่มากับน้ำ เช่นโรคตาแดง น้ำกัดเท้า และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียสส่วนในช่วงวันที่ 20-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%

-เนื่องจากในระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลงโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้

-ในระยะนี้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังเกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคฉี่หนูโดยหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรก หากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบู้ท

  • ในระยะนี้ชาวนาควรระวังและป้องกันหอยเชอรี่ที่มากับน้ำ โดยใช้ตาข่ายดักบริเวณที่มีน้ำไหลเข้าในนาข้าวแล้วจับไปทำลาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 17-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%

  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะอาจทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งเตรียมวัสดุสำหรับ กั้นน้ำและอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำให้พร้อม
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะจะทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันและ หากเจริญเติบโตได้ขนาดควรทยอยจับขาย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%

  • สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ระยะนี้มีฝนตกชุกชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวน รวมทั้งไม่ควรกองวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวนเพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืชโดยเฉพาะโรคพืชจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 17 - 20 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 17-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%

-ในระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตอนบนและฝั่งตะวันตก ควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

  • สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดี กับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เนื่องจากในระยะที่ผ่านมาปริมาณฝนมีน้อยกว่าความต้องการของพืชทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • สำหรับวันที่ 17 - 20 ก.ย. คลื่นลมในทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

-ในระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตอนบนและฝั่งตะวันตก ควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

  • ส่วนทางฝั่งตะวันตกซึ่งมีฝนตกชุก เกษตรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก
  • สำหรับวันที่ 17 - 20 ก.ย. คลื่นลมในทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ