ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 21 กันยายน 2555 - 27 กันยายน 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม ส่วนในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคใบจุดและโรคราแป้งในกุหลาบและเบญจมาศ
- ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกร ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง
- ระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนสภาพอากาศจะเริ่มแปรปรวนเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- สำหรับข้าวนาปีที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของต้นข้าวทำให้ต้นข้าวเสียหายได้
- ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชในช่วงปลายฤดูฝนควรเลือกพืช ที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เนื่องจากในระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง
- ส่วนทางตอนล่างของภาคยังคงมีฝนตก เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนอง เกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 80-90 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%
- ในช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการ อับชื้น ทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหากพบตัว ที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและทำการรักษาเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่น ๆ
- ระยะนี้มีฝนตกชุก ผู้ที่ปลูกองุ่นควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคแอนแทรคโนสหรือโรคผลเน่า ซึ่งจะทำให้ต้นเสียหายผลผลิตลดลง
- ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งยังมีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังโรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งเตรียมวัสดุสำหรับ กั้นน้ำและอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำให้พร้อม
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึง เกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 80-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%
- ระยะนี้มีฝนตกชุกผู้ที่ปลูกพริกไทยควรระวังและป้องกัน โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่า
- ส่วนชาวสวนยางพารา ในระยะนี้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- อนึ่งในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 21-22 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาคลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70 - 80%
-ในระยะนี้จะมีฝนตกหนักบริเวณตอนบนของภาคและ ทางฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรไว้ด้วย
-สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินผลที่กำลังเจริญเติบโตทำให้ผลผลิตเสียหาย หากพบควรรีบกำจัดก่อนจะระบาดเป็นบริเวณกว้าง
-ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม ควรขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำขัง ซึ่งจะเป็นสาเหตุของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- อนึ่งในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณ ที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 21-22 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 23-27 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
-ในระยะนี้จะมีฝนตกหนักบริเวณตอนบนของภาคและ ทางฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรไว้ด้วย
-ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม ควรขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำขัง ซึ่งจะเป็นสาเหตุของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- อนึ่งในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณ ที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74