ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 24 กันยายน 2555 - 30 กันยายน 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- เกษตรกรบริเวณนอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำฝน เพื่อจะได้มีสำรองไว้ใช้ในระยะต่อไป
- ผู้ที่ต้องการปลูกพืชในช่วงนี้ควรเลือกพืชที่ใช้น้ำน้อยและมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เนื่องจากในระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ระยะนี้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชทางตอนบนของภาคซึ่งขาดน้ำในระยะที่ผ่านมา
- ทางตอนล่างของภาคยังมีฝนตกชุก สภาพอากาศชุ่มชื้น เกษตรกรควรป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่และข้าวนาปี
- พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงที่ฝนตกน้อยด้วย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%
- เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากอับชื้นจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรจัดหาวัสดุกั้นขอบบ่อให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้า เมื่อมีฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลง สัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทันและมีผลกระทบต่อสภาวะการเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%
- เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลุ่มหรือที่ลาดเชิงเขา รวมทั้งบริเวณที่มีน้ำท่วมอยู่แล้วควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- ชาวสวนไม้ผลควรดูแลระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืช ซึ่งจะเป็นสาเหตุของโรครากเน่าและโคนเน่า
- อ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางตอนบนของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75 - 85%
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-95%
-ในช่วงวันที่ 26-30 ก.ย. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณตอนบนของภาคและทางฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งและกำจัดวัชพืชให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นซึ่งเป็นสาเหตุของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74