พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 15 ตุลาคม 2555 - 21 ตุลาคม 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday October 16, 2012 07:12 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 15 ตุลาคม 2555 - 21 ตุลาคม 2555

ภาคเหนือ

  • ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
  • ฝนที่ตกในสัปดาห์นี้ เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ในช่วงแล้งต่อไปด้วย
  • ส่วนเกษตรกรที่ปลูกมะขามหวานควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราแป้ง ซึ่งจะมักระบาดในช่วงต้นฤดูหนาว ทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตเสียหาย
  • ระยะที่อากาศเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ในวันที่ 15-16 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
  • แม้จะมีฝนตกในสัปดาห์นี้ แต่ปริมาณฝนน้อย ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอต่อพืชที่ประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ในช่วงแล้งต่อไปด้วย
  • ส่วนเกษตรกรนอกเขตชลประทานที่มีแหล่งเก็บน้ำของตนเอง ควรประหยัดการใช้น้ำ เพื่อจะได้มีน้ำพอใช้ในช่วงแล้ง
  • ระยะที่อากาศเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

ภาคกลาง

  • ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา เซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • ฝนที่ตกในสัปดาห์นี้ เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำฝน เพื่อไว้ใช้ในการเพาะปลูกช่วงหน้าแล้งด้วย
  • ระยะนี้เนื่องจากดินยังคงมีความชื้นเพียงพอ เกษตรกรสามารถลงมือปลูกพืชไร่ หรือพืชผักที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยๆได้

ภาคตะวันออก

  • ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา เซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • ฝนที่ตกในสัปดาห์นี้ เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ควรกักเก็บน้ำฝนที่จะตกในช่วงนี้ เพื่อไว้ใช้ในการเพาะปลูกช่วงหน้าแล้งด้วย
  • ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมเมื่อระยะที่ผ่านมา ภายหลังจากน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรฟื้นฟูสภาพดิน เก็บกวาดขยะ และเศษซากพืชที่เน่าเสียไปทำลาย เพื่อมิให้เป็นแหล่งเพาะชื้อโรค หากต้องการปลูกพืชไร่ซ่อมแซม ควรรีบปลูก เนื่องจากดินยังมีความชื้นเพียงพอ และเลือกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 15-19 ต.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • ระยะต่อไปจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทางตอนล่าง เกษตรกรควรเตรียมขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกในช่วงที่มีฝนตกหนัก นอกจากนี้ควรยกพื้นคอกสัตว์ให้สูงขึ้น และเตรียมพื้นที่อพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ที่สูงเมื่อเกิดสภาวะน้ำท่วม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 15-19 ต.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • สภาพอากาศโดยทั่วไปชุ่มชื้น เกษตรกรควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ