ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 22 ตุลาคม 2555 - 28 ตุลาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-25 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกใน ตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ระยะนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ ของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง
- สำหรับในบางช่วงอาจมีหมอกและน้ำค้างเกิดขึ้น ผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะ ราแป้งและราน้ำค้างในกุหลาบ
- ในส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานและมีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเอง เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 22-25 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกใน ตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกและ ตอนล่างของภาค และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชมส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ในช่วงต่อไปอุณหภูมิจะลดลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลบริเวณโรงเรือนให้ถูกสุขลักษณะ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป รวมทั้งเพิ่มความอบอุ่นในโรงเรือนสำหรับสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย
- สำหรับข้าวนาปีที่อยู่ในระยะออกรวงชาวนาควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินรวงข้าวในช่วงที่มีปริมาณฝนลดลง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 22-25 ต.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
- ส่วนผู้ที่ปลูกพืชผักในระยะนี้ควรดูแลให้น้ำอย่างเหมาะสมเพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้
- สำหรับพื้นที่ซึ่งมีสภาพอากาศแห้งเกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตลดล
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 22-25 ต.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรวางแผน การจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
- สำหรับบริเวณที่มีความชื้นในดินสูง ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกองสุม วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรภายในสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 22-25 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัด สุราษฎร์ธานีลงไปอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ เสี่ยงภัย ควรติดตามเฝ้าระวังอันตรายและป้องกัน ความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ในภาคใต้ฝั่งตะวันออก ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นทำให้ สภาพอากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่ปลูกพืชสวนควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเตรียมอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูง น้ำท่วมไม่ถึง รวมทั้งจัดเตรียมอาหารและน้ำกินสำหรับสัตว์เอาไว้ให้พร้อม
- อนึ่งในช่วงวันที่ 22 — 25 ต.ค. บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 23-26 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากขาดอากาศและต้นตายได้
- อนึ่งในช่วงวันที่ 22 — 25 ต.ค. บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74