ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 24 ตุลาคม 2555 - 30 ตุลาคม 2555
ภาคเหนือ
- ในช่วงวันที่ 24-28 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ช่วงที่อุณหภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง อาจเป็นเหตุให้ออกซิเจนในน้ำลดน้อยลง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำจึงควรเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เพื่อช่วยให้สัตว์น้ำมีความแข็งแรง
- สำหรับบริเวณที่มีหมอกหนา เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยวดยานพาหนะ
- ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรใช้น้ำอย่างประหยัดและกักเก็บน้ำฝนที่จะตกในช่วงนี้ เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่าง ของภาค และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ช่วงที่อุณหภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หากน้ำมีอุณหภูมิลดต่ำลงติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้ปลาช็อคตาย เนื่องจากขาดออกซิเจน เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำจึงควรเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เพื่อช่วยให้ปลาแข็งแรง
- ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรใช้น้ำอย่างประหยัดและกักเก็บน้ำฝนที่จะตกในช่วงนี้ เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
- สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้ปริมาณฝนอาจไม่เพียงพอต่อข้าวนาปีที่อยู่ในระยะออกรวง ชาวนาควรจัดหาน้ำให้แก่ข้าวอย่างเพียงพอ เพื่อมิให้ผลผลิตเสียหาย
ภาคกลาง
- ในช่วงวันที่ 24-28 ต.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงนี้ยังพอมีฝนตก พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรใช้น้ำอย่างประหยัดและกักเก็บน้ำฝนที่จะตก เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
- ส่วนฝนที่ตกในช่วงนี้ปริมาณฝนอาจไม่เพียงพอต่อพืชไร่และพืชผักที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอด้วย เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงนี้ยังพอมีฝนตก พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรใช้น้ำอย่างประหยัดและกักเก็บน้ำฝนที่จะตก เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง
- สำหรับสวนผลไม้ ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรภายในสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ในช่วงวันที่ 24-25 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในช่วงวันที่ 24-25 ต.ค. เกษตรกรบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปถึงนครศรีธรรมราชควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำความเสียหายต่อผลผลิตและพื้นที่การเกษตรได้
- ช่วงนี้ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรเตรียมอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูง น้ำท่วมไม่ถึง รวมทั้งจัดเตรียมอาหารและน้ำสะอาดสำหรับสัตว์ไว้ให้พร้อม
- อนึ่งในช่วงวันที่ 24 — 25 ต.ค. บริเวณอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ในช่วงวันที่ 24-26 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ช่วงนี้ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74