พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 26 ตุลาคม 2555 - 01 พฤศจิกายน 2555

ข่าวทั่วไป Monday October 29, 2012 07:12 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 26 ตุลาคม 2555 - 01 พฤศจิกายน 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-29 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ช่วงที่อากาศมีอุณหภูมิลดลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรเฝ้าระวังอย่าให้อุณหภูมิน้ำมีการเปลี่ยนแปลงมาก เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนและป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย - สำหรับในช่วงที่มีหมอกและน้ำค้าง เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิต ควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราซึ่งจะทำลายผลผลิตให้เสียหาย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-27 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชมส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค. มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมแรงลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชมหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรงลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย - ในช่วงต่อไปอุณหภูมิจะลดลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลบริเวณโรงเรือนให้ถูกสุขลักษณะ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป รวมทั้งเพิ่มความอบอุ่นในโรงเรือนให้แก่สัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย - สำหรับข้าวนาปีที่อยู่ในระยะออกรวง ชาวนาควรจัดหาน้ำให้แก่ข้าวอย่างเพียงพอ เพื่อมิให้ผลผลิตเสียหาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 26-30 ต.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรงลมตะวันออก ความเร็ว 10-35 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง - ส่วนผู้ที่ปลูกพืชผักในระยะนี้ควรดูแลให้น้ำอย่างเหมาะสมเพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้ - สำหรับพื้นที่ซึ่งมีสภาพอากาศแห้งเกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตลดลง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 26-30 ต.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรงลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง เกษตรกรควรวางแผน การจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง - สำหรับสวนผลไม้ ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรภายในสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 26-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ เสี่ยงภัย ควรติดตามเฝ้าระวังอันตรายและป้องกัน ความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว - ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทางน้ำ อย่าให้ตื้นเขิน เพื่อจะได้ระบายน้ำได้เร็วขึ้นเมื่อมีฝนตกหนัก รวมทั้งควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวน เพราะจะเป็นที่อาศัยหลบซ่อน ของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่ง มักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง - อนึ่งในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-1 พ.ย. บริเวณอ่าวไทย จะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 26-31 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นจะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ภาคใต้ฝั่งตะวันตก สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โรคหน้ากรีดยาง และโรครา สีชมพู เป็นต้น โดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเท ได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ