ระหว่าง 02 พฤศจิกายน 2555 - 08 พฤศจิกายน 2555
ภาคเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ในระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาว จะมีหมอกและน้ำค้างในตอนเช้า เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะจะทำให้ผลผลิตเปียกชื้นและเสียหายได้
- ในช่วงนี้ปริมาณน้ำระเหยมีมาก ประกอบกับปริมาณฝน มีน้อย เกษตรกรที่ปลูกสตรอเบอรรี่ควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้สตรอเบอรรี่ชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 -18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ในระยะนี้อากาศแห้ง ประกอบกับปริมาณฝนที่มีน้อย เกษตรกรควรคลุมพื้นที่เพาะปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นฟางข้าว ใบไม้ และหญ้าแห้งเพื่อลดการระเหยของน้ำและสงวนความชื้นที่บริเวณผิวหน้าดิน
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงหากขาดความสมดุลจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม เว้นแต่ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ในระยะนี้ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย
- สำหรับพื้นที่ที่ฝนไม่ตกสภาพอากาศแห้ง ผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่าง ๆ
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร เว้นแต่ในช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%
- ในระยะนี้อากาศแห้ง ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรคลุมพื้นที่เพาะปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
- เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณ และการกระจายของฝนจะลดลง ผู้ที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวก ปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นทรุดโทรมส่งผลต่อการแตกตาดอกของพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ในระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันมิให้ท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศและตายได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ส่วนทางฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกชุก เกษตรกรที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74