ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 - 21 พฤศจิกายน 2555
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ย. พายุดีเปรสชันบริเวณปลายแหลมญวนจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยตอนบน และจะขึ้นฝั่งที่ภาคใต้ตอนบน จากนั้นจะลงสู่ทะเล
อันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนบน ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกและอากาศเย็นลง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องต่อไปอีก หลังจากนั้น บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกเพิ่มมากขึ้น
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15-20 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากมาก ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย. ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 16-19 พ.ย. อากาศเย็นในบางพื้นที่กับมีหมอกบางในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 15-19 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางตอนบนของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 16-19 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 16-18 พ.ย. ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-45 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 16-19 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74