พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 19 พฤศจิกายน 2555 - 25 พฤศจิกายน 2555

ข่าวทั่วไป Tuesday November 20, 2012 07:18 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 19 พฤศจิกายน 2555 - 25 พฤศจิกายน 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาด้วย - สำหรับในช่วงที่มีหมอกและน้ำค้างเกิดขึ้น ผู้ที่ปลูกพืชผักและไม้ดอก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราแป้งและราน้ำค้าง - เกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชในระยะเจริญเติบโต

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆร้อยละ 20-30 ของพื้นที่และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ ของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาด้วย - ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชในระยะเจริญเติบโต นอกจากนี้ควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อช่วยรักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. อากาศเย็นในบางพื้นที่กับมีหมอกในตอนเช้าโดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคและอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% - สำหรับฝนที่ตกในสัปดาห์นี้ จะมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อพืชไร่และพืชผักที่กำลังเจริญเติบโต เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืช อย่างเพียงพอด้วย เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหาย รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืช - ส่วนบริเวณที่มีสภาพอากาศแห้งเกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตลดลง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% - ในช่วงวันที่ 24- 25 พ.ย. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรติดตามเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ เกษตรกรบริเวณนอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร - ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชในระยะเจริญเติบโต สำหรับบริเวณที่มีฝนตก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 24-25 พ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ในช่วงวันที่ 24- 25 พ.ย. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรติดตามเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว - ทางฝั่งตะวันออก ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกคูคลอง และทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังพื้นที่เพาะปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% - ส่วนทางฝั่งตะวันตก อากาศชื้น เกษตรกรควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ