พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 26 พฤศจิกายน 2555 - 02 ธันวาคม 2555

ข่าวทั่วไป Wednesday November 28, 2012 07:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 26 พฤศจิกายน 2555 - 02 ธันวาคม 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%

  • ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง อาจเปียกชื้นเสียหายได้
  • ในช่วงนี้ สภาพอากาศชื้นในตอนเช้า เกษตรกร ที่ปลูกพืชผักควรระวังโรคราน้ำค้าง หากพบควรรีบป้องกันกำจัดเพื่อไม่ให้แพร่ระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • สำหรับเกษตรกรผู้ที่ปลูกไม้ผลควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการหักโค่นเมื่อมีลมแรง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70%

  • ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง อาจเปียกชื้นเสียหายได้
  • ในระยะต่อไปอุณหภูมิจะลดลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับสัตว์เลี้ยง รวมถึงทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มความอบอุ่นในโรงเรือน
  • สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%

  • ในช่วงนี้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นเกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรกักเก็บน้ำและวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้เหมาะสม เพื่อให้มีน้ำพอใช้ในช่วงแล้ง
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน และอาจเป็นโรคได้
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ป้องกันสัตว์ปรับตัว ไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

  • ในช่วงนี้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรกักเก็บน้ำและวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้เหมาะสม เพื่อให้มีน้ำพอใช้ในช่วงแล้ง
  • สำหรับชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%

  • ในช่วงนี้บริเวณภาคใต้ จะมีฝนตกหนัก บางแห่ง เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ทางฝั่งตะวันออก ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกคูคลอง และทำทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังพื้นที่เพาะปลูก
  • อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% ทางฝั่งตะวันตก เกษตรกร ควรดูแลบริเวณสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

  • อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ