ระหว่าง 30 พฤศจิกายน 2555 - 06 ธันวาคม 2555
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-19 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และทำแผงกำบังลมหนาว
- ชาวสวนควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค.
- ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง สัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหาร เพื่อป้องกันเศษอาหารเหลือทำให้น้ำเน่าเสีย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้งและลมแรง ผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นควรดับไฟให้สนิทหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
- สำหรับผลผลิตที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวและไม่ควรตากไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย
- ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ และควรวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%
- ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.- 3 ธ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรระวังความเสียหายกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้ง
- ฝนที่ตกในช่วงนี้จะมีปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างพอเพียง นอกจากนี้ควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%
- บริเวณที่มีฝน เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไป รวมทั้งควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้
- ชาวสวนผลไม้ควรตรวจสอบวัสดุที่ผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค.
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 30 พ.ย.- 3 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 30 พ.ย.- 3 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
- พื้นที่การเกษตรในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำบริเวณแปลงปลูกให้ระบายน้ำได้ดี เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
- ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74