พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 19 ธันวาคม 2555 - 25 ธันวาคม 2555

ข่าวทั่วไป Thursday December 20, 2012 07:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 19 ธันวาคม 2555 - 25 ธันวาคม 2555

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค และอุณหภูมิจะลดลงอีก 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

  • สภาพอากาศจะหนาวเย็นลง เกษตรกรจึงควรเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายอย่างพอเพียง รวมทั้งควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
  • บริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายต่อพืชไร่และพืชผักจากสภาวะดังกล่าว
  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. จะมีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายกับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้ง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีก 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อากาศเย็นถึงหนาว และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%

  • สภาพอากาศจะหนาวเย็นลง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างพอเพียง และทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์ที่ยังเล็กด้วย สำหรับผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายควรดับไฟให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • ในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลง ปลาจะกินอาหารน้อยลง เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารที่ให้ลงจากปกติ เพื่อป้องกันเศษอาหารเหลือ ทำให้น้ำเน่าเสีย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. จะมีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายกับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้ง
  • สำหรับสภาพอากาศที่แห้ง อาจมีศัตรูพืชจำพวกเพลื้ยระบาดทำลายพืชไร่และพืชผัก เกษตรกรควรป้องกันกำจัดศัตรูพืชดังกล่าว

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80%

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สภาพอากาศที่แห้งจะทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่และพืชผักอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรหมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 19-23 ธ.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90%
  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 19-23 ธ.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85%
  • เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยทางตอนล่างของภาคควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากฝนตกหนัก

-บริเวณที่มีฝนตกชุก เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย รวมทั้งควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

  • บริเวณอ่าวไทยตอนล่างคลื่นลมมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ