พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 31 ธันวาคม 2555 - 06 มกราคม 2556

ข่าวทั่วไป Wednesday January 2, 2013 06:52 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 31 ธันวาคม 2555 - 06 มกราคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55 — 3 ม.ค.56 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 4-6 ม.ค.56 มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพ ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งระวัง และป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร และควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุสีเข้ม
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มอุณหภูมิภายในโรงเรือน และให้แก่สัตว์เลี้ยง ไม่ควรปล่อยให้ลมโกรกโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เพราะจะทำให้สัตว์หนาวเย็น อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55-2 ม.ค.56 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 3-6 ม.ค.56 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง อย่างพอเพียง เพื่อป้องกันความหนาวเย็น จนร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์เลี้ยงอาจปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยง หลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรดับให้สนิททุกครัง รวมทั้งทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก และอาคารบ้านเรือน เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55-2 ม.ค.56 อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 3-5ม.ค.56 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

-ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน

-สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรลดปริมาณอาหาร เนื่องจากอุณหภูมิที่ลดลงทำให้สัตว์กินอาหารได้น้อยอาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย

-ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควร หมั่นสังเกตุหากพบตัวที่ป่วย ควรรีบแยกออกจากกลุ่ม แล้วรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรค แพร่ไปรังตัวอื่นๆ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55-2 ม.ค.56 อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.56 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สำหรับอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ เกษตรกร ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก หากเห็นดอกชัดเจนแล้ว เกษตรกรควรเริ่มให้น้ำ โดยให้ในปริมาณที่น้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น
  • เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ควรวางแผน การใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงแล้ง
  • ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารของสัตว์น้ำ เนื่องจากสัตว์น้ำจะกินอาหาร ได้น้อยลง อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55-2 ม.ค.56 มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ในช่วงวันที่ 3-6 ม.ค.56 มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.-2ม.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลง จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรวางแผนอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึงและเตรียม อาหารละน้ำกินสำหรับสัตว์เอาไว้ให้พร้อม
  • เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนักติดต่อกัน
  • ระยะนี้ภาคใต้มีฝนตกชุก เกษตรกรควรดูแลบริเณพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
  • อนึ่งในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55-2ม.ค.56 คลื่นลมบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้ที่เพาะเลี้ยง สัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นด้วย ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.55-2 ม.ค.56 มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค.56 มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนัก
  • ระยะนี้ภาคใต้มีฝนตกชุก เกษตรกรควรดูแลบริเณพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ