พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 23 มกราคม 2556 - 29 มกราคม 2556

ข่าวทั่วไป Thursday January 24, 2013 06:24 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 มกราคม 2556 - 29 มกราคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงในระยะแรกและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่จุดไฟผิงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นควรดับไฟให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • ในช่วงที่มีหมอกหนา ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวัง ส่วนเกษตรกรที่ปลูกมะขามหวานควรระวังโรคที่เกิดจากเชื้อราในผลผลิตที่จะเก็บเกี่ยว
  • ในช่วงวันที่ 27 — 29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกับลมกระโชกแรง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรง ในระยะแรกและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง เกษตกรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้สัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกับลมกระโชกแรง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้สัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ระยะนี้แม้บางพื้นที่จะมีฝนตกแต่ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่และลมกระโชกแรงในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ระยะนี้ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย ไม้ผลที่ดอกบานและติดผลแล้ว ชาวสวนควรให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชภายในสวน เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากไม้ผล นอกจากนี้ควรป้องกันกำจัดศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยไว้ด้วย
  • เนื่องจากปริมาณฝนที่จะตกมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 23-27 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. เป็นต้นไป มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • ระยะนี้แม้บางพื้นที่จะมีฝนตกแต่ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืช
  • ส่วนชาวสวนยางพารา ควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟ หากมีความจำเป็นควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 26-29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้แม้บางพื้นที่จะมีฝนตกแต่ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืช
  • ส่วนชาวสวนยางพารา ควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟ หากมีความจำเป็นควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ