พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 25 มกราคม 2556 - 31 มกราคม 2556

ข่าวทั่วไป Monday January 28, 2013 06:52 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 25 มกราคม 2556 - 31 มกราคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น กับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงในระยะแรกและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิน้ำไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์น้ำจะปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงที่มีหมอกหนา ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวัง
  • ในช่วงวันที่ 28 — 31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งของไม้ผล และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงขณะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรง ในระยะแรกและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เกษตกรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 27 — 31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกับลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรวมทั้งควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้สัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 28 — 31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกับลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่และลมกระโชกแรงในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ในช่วงวันที่ 27 — 29 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆกับลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่นเนื่องจากลมแรง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • ระยะนี้แม้บางพื้นที่จะมีฝนตกแต่ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืช
  • ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้แม้บางพื้นที่จะมีฝนตกแต่ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืช

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ