พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 06 กุมภาพันธ์ 2556 - 12 กุมภาพันธ์ 2556

ข่าวทั่วไป Thursday February 7, 2013 06:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 06 กุมภาพันธ์ 2556 - 12 กุมภาพันธ์ 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. จะมีหมอกและหมอกหนาในตอนเช้า เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะจะเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากหมอกและน้ำค้าง
  • สภาพอากาศที่หนาวเย็น เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้กับตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
  • ในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ชาวสวนผลไม้ควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของ ไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 8-12 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ.จะยังคงมีอากาศหนาวเย็นและแห้ง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยดับไฟให้สนิททุกครั้งหลักเลิกใช้งานและทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก
  • ในช่วงวันที่ 8-12 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและทางตอนล่างของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

-ระยะนี้แม้จะมีฝนตก แต่ไม่ต่อเนื่องและไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เกษตรกรที่ไม่มีแหล่งน้ำสำรองควรหลีกเลี่ยงการปลูกพืชรุ่นใหม่เพื่อป้องการการขาดน้ำในระยะต่อไป สำหรับพืชไร่และพืชผักที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืชในแปลงปลูก

  • ในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. จะมีฝนบางแห่งและปริมาณไม่มาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน
  • ในช่วงวันที่ 9 -12 ก.พ. จะมีฝนเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโตและไม้ผลซึ่งอยู่ในระยะให้ผลผลิต เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนที่ตกในช่วงนี้สำรองไว้ให้พืชในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมาลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ระยะนี้ทางตอนบนของภาคจะมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน
  • ในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันการเกิดโรคพืชจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ