พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 - 18 กุมภาพันธ์ 2556

ข่าวทั่วไป Wednesday February 13, 2013 07:05 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 - 18 กุมภาพันธ์ 2556

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก

และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดน้อยลง และมีหมอกเพิ่มมากขึ้น เว้นแต่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

และลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิสูงขึ้น และลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคใต้ตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนในวันที่ 14-18 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างระมัดระวังอันตรายจาก ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ตลอดช่วง

โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 12-14 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ. อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว030 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ