พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 - 5 มีนาคม 2556

ข่าวทั่วไป Thursday February 28, 2013 07:14 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 - 5 มีนาคม 2556

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ประกอบกับจะมีลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้จะมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง

ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตก

บางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. ขอให้ชาวเรือในบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-2 มี.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ

ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 28 ก.พ.- 2 มี.ค. มีหมอกในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง

ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 3- 5 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง

ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส

อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่สุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่

อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่สุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.- 2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค

ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 28 ก.พ.- 2 มี.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ