พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า 25 มีนาคม 2556 - 31 มีนาคม 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday March 26, 2013 06:49 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 25 มีนาคม 2556 - 31 มีนาคม 2556

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ระยะนี้มีแสงแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด และดื่มน้ำบ่อยครั้ง
  • เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดเช่นเพลี้ยและไรต่าง ๆ ในไม้ผลและพืชผักต่าง ๆ
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน รวมทั้งเพิ่มน้ำกินให้กับสัตว์เลี้ยง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองและ ลมกระโชกแรงทางด้านตะวันออกของภาค สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้
  • สำหรับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งในระยะนี้ เกษตรกรที่ปลูกยางพารา ควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและหลีกเลี่ยงการจุดไฟ หากมีความจำเป็นควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 25-27 มี.ค. มีเมฆบางส่วน และมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 มี.ค. อากาศร้อนกับมี ฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในระยะนี้มีฝนน้อย เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด โดยให้น้ำแก่พืชครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ ครั้ง และควรให้ในตอนเย็นเพื่อลดการระเหยของน้ำ
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน รวมทั้งเพิ่มน้ำกินให้กับสัตว์เลี้ยง
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับปริมาณสัตว์ที่เลี้ยง หากขาดความสมดุลจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร

  • ในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ที่ ผูกยึดและค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง
  • ระยะนี้แม้ว่าจะมีฝนตก แต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตชะงักการเจริญเติบโต และร่วงหล่น
  • เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อ จะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

  • ในระยะนี้ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
  • สำหรับทุเรียนที่อยู่ในระยะออกดอก หากเห็นดอกชัดเจนแล้ว เกษตรกรควรให้น้ำโดยเริ่มจากน้อยแล้วควรให้เพิ่มขึ้น เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ดอกร่วงหล่นการติดผลลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

  • ในระยะนี้ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
  • สำหรับทุเรียนที่อยู่ในระยะออกดอก หากเห็นดอกชัดเจนแล้ว เกษตรกรควรให้น้ำโดยเริ่มจากน้อยแล้วควรให้เพิ่มขึ้น เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ดอกร่วงหล่นการติดผลลดลง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ