พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 08 เมษายน 2556 - 14 เมษายน 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday April 9, 2013 07:45 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 08 เมษายน 2556 - 14 เมษายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตอนบน และด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต ชาวสวนควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่น
  • สำหรับสภาวะอากาศที่ร้อนและแห้งจะทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย เกษตรกรควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากเลิกใช้งาน รวมทั้งควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตราย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ตลอดจนป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่ขาดน้ำในระยะที่ผ่านมา และช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ย เกษตรกรควรเก็บกักน้ำสำรองไว้ใช้ในการอุปโภคและบริโภคในระยะต่อไปด้วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนที่ไม่แข็งแรงและพืชผลทางการเกษตรได้ เกษตรกรจึงควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหาย โดยเฉพาะไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้ผูกยึดและค้ำยันกิ่งหรือลำต้นให้แข็งแรง
  • สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บสำรองน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย.อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทางตอนบนของภาคจะยังคงมีฝนตกไม่มาก ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่ไม้ผลที่กำลังติดผลอ่อนอย่างเพียงพอ รวมทั้งควรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมบริเวณโคนต้นพืชเพื่อรักษาความชื้นในดิน
  • ในช่วงวันที่ 10-14 เม.ย.บริเวณทางตอนล่างของภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่ขาดน้ำในระยะที่ผ่านมา สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายจากสภาวะที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากฝนตกหนักไว้ด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ