ประจำวันที่ 11 เมษายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวในช่วงวันที่ 11-14 เมษายน 2556 นี้
สำหรับคลื่นกระแสลมตะวันออกจากทะเลจีนใต้จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้
ในช่วงวันที่ 11-16 เมษายน 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และชาวเรือระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (12-16 เมษายน 2556) บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตก
ในระยะแรก(12-14 เม.ย. 56) ทำให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลง คาดว่าจะมีอุณหภูมิในช่วงบ่าย ประมาณ
33-37 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-15 เมษายน 2556
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 38-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนพายุฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณตอนล่างของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74