ระหว่างวันที่ 11 เมษายน 2556 - 17 เมษายน 2556
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนโดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่งผลให้อากาศคลายความร้อนลง
ส่วนในช่วงวันที่ 11-17 คลื่นกระแสลมตะวันออกจากทะเลจีนใต้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12-16 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่
และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-16 เม.ย.
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองถึงกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-16 เม.ย.
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74