พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 22 เมษายน 2556 - 28 เมษายน 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday April 23, 2013 06:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 22 เมษายน 2556 - 28 เมษายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 22-25 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้เกษตรกรควรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในด้านการเกษตร รวมถึงวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในระยะต่อไป
  • ระยะนี้สภาพอากาศโดยทั่วไปยังคงร้อนและแห้ง อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย เกษตรกรควรเก็บกวาดเศษใบไม้หรือหญ้าแห้งภายในสวนให้โล่งเตียน
  • สำหรับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชเพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจทำให้เปียกชื้นเสียหายได้
  • สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้ จะช่วยลดการระบาดของ เพลี้ยชนิดต่าง ๆ ลงได้ นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ในช่วงแล้งด้วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 37-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้อาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงด้วย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • ในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวัง ความเสียหายที่จะเกิดกับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต เช่น เงาะ ทุเรียน และมังคุด โดยเพิ่มความแข็งแรงให้กับวัสดุที่ใช้ผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผล หรือเก็บผลผลิตที่แก่ดีแล้วเพื่อป้องกันความเสียหายหรือคุณภาพลดลง
  • เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 22-25 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต นอกจากนี้เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเอง ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในด้านการเกษตร รวมถึงวางแผน การใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในระยะต่อไป
  • ส่วนยางพาราที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน เกษตรกรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราไว้ด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 22-25 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต นอกจากนี้เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเอง ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในด้านการเกษตร รวมถึงวางแผน การใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในระยะต่อไป
  • ส่วนยางพาราที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน เกษตรกรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราไว้ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ