พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 26 เมษายน 2556 - 02 พฤษภาคม 2556

ข่าวทั่วไป Monday April 29, 2013 06:49 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 26 เมษายน 2556 - 02 พฤษภาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียสโดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 เม.ย. - 2 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-27องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในระยะนี้ เกษตรกรควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณน้อย สำหรับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชเพื่อสงวนความชื้นในดิน นอกจากนี้ควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27 เม.ย. - 2 พ.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนฝนที่ตกยังมีปริมาณน้อยและการกระจายยังไม่ทั่วถึง เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ ควรรอให้มีฝนตกสม่ำเสมอแล้วค่อยลงมือปลูก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชขณะเจริญเติบโต
  • สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้จะช่วยลดการระบาดของ เพลี้ยชนิดต่าง ๆ ลงได้ นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ในระยะต่อไป

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 เม.ย. - 2 พ.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ฝนที่ตกในระยะนี้จะช่วยบรรเทาความร้อนอบอ้าวลงไปได้บ้าง และเป็นผลดีกับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต ตลอดจนช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด
  • สำหรับสภาพอากาศที่ร้อนในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เครียด และเจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27 เม.ย. - 2 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต เช่น เงาะ ทุเรียน และมังคุด หากผลผลิตแก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว
  • สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้ เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนและวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ทางตอนบนของฝั่งตะวันออกจะยังคงมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืช รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้น เพื่อสงวนความชื้นในดิน
  • ส่วนทางตอนล่างของฝั่งตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโตและไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิต นอกจากนี้เกษตรกรควรดูแลบริเวณสวนให้โปร่ง เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงนี้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกร ควรขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ